การใช้ชีวิตกับใครสักคน แน่นอนว่าไม่ได้มีแต่เรื่องที่ยินยอมพร้อมใจและเห็นด้วยไปเสียทุกเรื่อง แต่มีประเด็นร้อยแปดที่เกิดขึ้นในแต่ละวันที่ทั้งคู่จะต้องพบเจอและแก้ปัญหาร่วมกัน ซึ่งบางทีก็ไม่ได้ดั่งใจอีกฝ่ายเลย ทำให้อีกฝ่ายอาจเกิดอาการไม่พอใจ น้อยใจ หรือความรู้สึกด้านลบไดๆก็ตามแต่ แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลดีต่อความสัมพันธ์อย่างแน่นอน จะว่าไปมันก็เป็นเรื่องธรรมชาติที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และนั่นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ใช้ทดสอบความแข็งแรงแน่นแฟ้นของความสัมพันธ์ของคุณได้อีกทางหนึ่งด้วย
การทะเลาะวิวาทอย่างต่อเนื่องในความสัมพันธ์
หากการทะเลาะเกิดขึ้นไม่บ่อยนักและไม่รุนแรงอะไร มันก็เป็นเรื่องปกติและอาจจะถือเป็นเรื่องดีเสียด้วยซ้ำ แต่บางคู่อาจเกิดการทะเลาะเบาะแว้งบ่อยๆ นั่นต้องมานั่งพิจารณาสาเหตุว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น อาจเป็นไปได้ว่าไม่มีการสื่อสารอย่างเปิดเผย อีกฝ่ายไม่กล้าที่จะเปิดใจบอกกล่าวออกมาโดยตรง การตัดสินใจโดยที่ไม่คำนึงถึงผลกระทบต่ออีกฝ่าย เป็นต้น ซึ่งหากคุณเป็นคนที่อยู่ร่วมกันแล้ว การสื่อสารที่ดีนั้นเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาในชีวิตคู่ เป็นการหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดหรือสถานการณ์ที่นำไปสู่ข้อพิพาทได้ในอนาคต
จิตวิทยาของการทะเลาะ
ความสัมพันธ์ที่ดี คือ ความสัมพันธ์ที่ผ่านความขัดแย้งมาได้อย่างตลอดรอดฝั่ง เป็นความสัมพันธ์ที่คนสองคนเรียนรู้ที่จะโต้แย้ง ประนีประนอม และหาทางออกโดยมีความรักและความเข้าใจเป็นพื้นฐาน ในความสัมพันธ์ที่ดีต้องมีการพูดคุยกันอยู่ตลอดเวลา และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเอาใจเขามาใส่ใจเรา
เพราะคุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวอีกต่อไปแล้ว ความขัดแย้งไดๆที่ก่อให้เกิดความทุกข์กับคู่ครอง การปล่อยอารมณ์เชิงลบ ตะโกนว่าร้ายใส่กัน นอกจากจะไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นแล้ว ยังเกิดเป็นแผลในใจของอีกฝ่ายไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ฉะนั้น เราจะต้องหลีกเลี่ยงการตัดสินในเชิงลบ ไม่พูดจาเชิงลบให้อีกฝ่ายรู้สึกแย่ แต่มุ่งเน้นไปที่องค์ประกอบของพฤติกรรมของเขาที่ทำให้โกรธหรือไม่พอใจ ซึ่งอาจเกิดจากข้อผิดพลาดในการสื่อสารของเราเองที่ทำให้ยากต่อการประนีประนอม เมื่อเรารู้สาเหตุและตั้งสติไม่ให้โกรธ เราก็จะพบทางแก้ปัญหาได้ง่ายยิ่งขึ้น
การโต้เถียงหรือวิธีการพูดคุยกับผู้ชาย
ผู้ชายส่วนใหญ่มีการตอบสนองต่อความขัดแย้งในวิธีที่คล้ายกัน พวกเขาไม่ค่อยอดทนที่จะมีการทะเลาะเบาะแว้งแต่ชอบหายไปจากสถานการณ์ดื้อๆ การถอนตัวออกจาการสนทนาหรือการโต้แย้งไม่ได้ทำให้การแก้ไขความขัดแย้งนั้นง่ายขึ้น แต่เป็นการหนีปัญหาไปชั่วคราวและเขาอาจกลับมาแก้ไขหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งหากเขาแก้ไขก็ดีไป แต่ถ้าทิ้งปัญหาไว้ตรงนั้นคือไม่ดีแน่ อย่างไรก็ตาม มีวิธีการที่เราจะทะเลาะอย่างไรไม่ทำร้ายความสัมพันธ์ หรือกฎสำหรับการทะเลาะกันเพื่อสุขภาพ ซึ่งได้แก่
- ถึงจะมีการทะเลาะหรืโต้แย้งเรื่องไดๆ แต่เราต้องยังเคารพซึ่งกันและกัน
- เกาะติดกับหัวข้อและปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นคุณอาจให้อารมณ์มาครอบงำจนไม่ได้แก้ไขเรื่องที่เป็นปัญหาอยู่
- หลีกเลี่ยงการประเมินและการตัดสินกันและกัน วิเคราะห์พฤติกรรมของอีกฝ่ายอย่างเฉพาะเจาะจง เพราะแน่นอนคุณเป็นคนที่รู้จักคู่รักของคุณดีที่สุด
- พูดถึงความรู้สึกของคุณอย่างเปิดเผย อย่าเก็บงำความรู้สึกไว้ เพราะคู่รักของคุณอาจไม่เข้าใจหากคุณไม่อธิบายตรงๆ
- แบ่งแยกความรับผิดชอบในหน้าที่การงานและความสัมพันธ์ออกจากกัน
- มุ่งมั่นที่จะจัดการกับประเด็นปัญหาตรงหน้า แต่อย่าทำให้อีกฝ่ายคิดว่าถูกละเลยความสำคัญ เพราะการทะเลาะกันเพื่อสุขภาพนั้นส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพื่อการประนีประนอม
- ฟังในสิ่งที่คู่รักของคุณพูดอยู่อย่างตั้งใจและแสดงความเข้าใจในตัวเขาอย่างถ่องแท้
