ไขมันปาล์ม – เรียนรู้ข้อเท็จจริงและความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับน้ำมันปาล์ม

มีกระแสมากมายพูดถึงน้ำมันปาล์มว่ามีข้อดีและข้อเสียอย่างไร แต่น้ำมันปาล์มก็ยังคงมีบทบาทมากในอุตสาหกรรมอาหารในเมืองไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าตามท้องตลาด ด้วยคุณสมบัติของน้ำมันปาล์มที่ไม่มีกลิ่นหืน ทอดได้กรอบอร่อย และยังไม่เกิดควันเมื่อทอดหรือผัดอาหารที่อุณหภูมิสูงอีกด้วย นับว่าเป็นความสะดวกที่ต้องมาก่อนสำหรับคนที่ทำการค้าขายอาหารเลยทีเดียว ทำไมไขมันนี้จึงถูกมองว่าเป็นสิ่งชั่วร้ายและเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพของเรา ความจริงคืออะไร การบริโภคน้ำมันปาล์มแท้จริงแล้วสามารถสร้างความเสียหายแก่ร่างกายได้จริงหรือไม่

การโฆษณาชวนเชื่อ

ความเข้าใจผิดแรกในหมู่ผู้บริโภคคือการสันนิษฐานว่า เนื่องจากน้ำมันปาล์มมีไขมันอิ่มตัวจึงต้องเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยคอเลสเตอรอลแน่นอน และนั่นคือความเข้าใจแบบผิดๆที่มักเกิดจากการขาดความรู้อย่างแท้จริง คอเลสเตอรอลจะพบได้ในไขมันสัตว์เท่านั้น น้ำมันปาล์มเป็นไขมันจากพืชดังนั้นคุณจะไม่พบคอเลสเตอรอลแม้แต่ในปริมาณแค่กรัมเดียว น้ำมันปาล์มมีสเตอรอลล์ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับคอเลสเตอรอลในด้านโครงสร้าง แต่สเตอรอลไม่สามารถเป็นปัญหาหรือส่งผลให้เกิดโรคหลอดเลือดหรือโรคหัวใจ

ไขมันในปาล์มมีส่วนเพิ่มปริมาณของคลอเลสเตอรอล – ไม่จริง

น้ำมันปาล์มมีสารอาหารจำนวนมาก รวมถึงสเตอรอลส์ โทโคฟีรอล และโทโคไตรอีนอล ส่วนประกอบทั้งสามนี้มีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ฉะนั้น น้ำมันปาล์มธรรมชาติไม่มีผลกระทบต่อระดับคอเลสเตอรอล คำกล่าวที่ว่าน้ำมันปาล์มนั้นมีส่วนช่วยในการเพิ่มปริมาณของคลอเลสเตอรอลในเส้นเลือดนั้นไม่เป็นความจริง

ไขมันในปาล์มรับประทานแล้วมีสุขภาพดี – จริง

ไขมันปาล์มที่ได้จากน้ำมันปาล์มแท้ซึ่งไม่ได้ผ่านกระบวนการแปรรูป เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพ และสามารถแนะนำให้มีอยู่ในอาหารได้ตามปกติ อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ดังกล่าวค่อนข้างหายากมาก ไม่ค่อยพบเห็นในตลาดทั่วไป น้ำมันปาล์มแท้นี้มีสีแดงซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เรียกว่าน้ำมันปาล์มสีแดง ซึ่งโดดเด่นด้วยคุณประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพและอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามิน A, E และ K แต่ข้อเสียของผลิตภัณฑ์นี้คือหารับประทานได้ยากมาก และมีราคาที่ค่อนข้างสูง

การบริโภคไขมันปาล์มที่เป็นภัยคุกคามต่อความเสี่ยงโรคหลอดเลือดอุดตัน – ไม่จริง

น้ำมันปาล์มมีไขมันอิ่มตัวและไขมันประเภทนี้ไม่ทำให้หลอดเลือดอุดตันแต่อย่างได

น้ำมันปาล์มไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ทุกคนคิด

น้ำมันแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ผู้บริโภคต้องศึกษาข้อมูลในด้านคุณสมบัติของน้ำมันชนิดนั้นและการนำไปใช้อย่างถูกต้อง และเป็นผู้ตัดสินเองว่าประเภทไหนเหมาะกับร่างกายของตน ปัจจัยที่จะทำให้ผู้บริโภคอาหารเป็นหรือไม่เป็นโรคร้าย ความจริงก็คือ น้ำมันทุกชนิดสามารถทำร้ายสุขภาพได้ทั้งนั้น หากรับประทานในปริมาณมากเกินไปหรือใช้น้ำมันปรุงอาหารไม่ถูกประเภท สำหรับปริมาณที่แนะนำให้รับประทานไขมันต่อวัน ในกรณีคนทั่วไปก็สามารถบริโภคไขมันตามหลักโภชนาการที่ถูกต้อง โดยการบริโภคไขมันต่อวันต้องไม่เกิน 6 ช้อนชา หรือประมาณ 3 ช้อนโต๊ะเท่านั้น เราไม่ควรใช้น้ำมันเพียงประเภทเดียว แต่ควรมีการใช้อย่างผสมผสานกันไป เช่น

• กลุ่มน้ำมันพืชอย่าง น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง เหมาะกับการปรุงอาหารรูปแแบบที่ไม่ใช้ความร้อนมากเช่น น้ำสลัด หรืออาหารประเภทผัด
• อาหารประเภทที่ต้องผัดเป็นเวลานาน หรืออาหารทอดที่ใช้น้ำมันในปริมาณมากกว่าปกติ เราควรเลือกใช้น้ำมันที่มีกรดไขมันอิ่มตัวสูงขึ้น เช่น น้ำมันปาล์ม น้ำมันรำข้าว
• สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือในเรื่องของ “จุดเกิดควัน” ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้ต้องเลือกน้ำมันชนิดที่เหมาะสมกับวิธีการประกอบอาหาร
• นอกจากนี้แล้วการรับประทานน้ำมันหลากหลายชนิดจะช่วยให้เราได้รับสารอาหารที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย